ในเกมส์สนุกสนานและมีการเข้ามาส่งเสริมผู้เล่นเด็กที่นี่ เด็กๆจะตามหาแมวน้อยที่น่ารักและเรียนภาษาอังกฤษด้วยพวกเขา。ผ่านการเดินทางอุทยานรวมตัวที่น่าสนุกนี้ เด็กๆจะเรียนรู้คำศัพท์ที่น่าสนุกและที่ใช้ในประจำวัน และยังขยายความสามารถในการสนทนาภาษาอังกฤษด้วยเช่นกัน。ร่วมกันเดินทางไปทางแหล่งที่มีความสนุกสนานและทรงประโยชน์ของการเรียนภาษาอังกฤษนี้ตั้งแต่ตอนนี้เริ่มนะ!

วันที่มีแสงแดดที่มีความงาม

มิ่งมีสัตว์เลี้ยงดังกล่าวในป่าและเจอกันกับหนูขาวหนึ่งตัวที่มีความสนใจอยู่เลย หนูขาวบอกมิ่งว่า “hi there, ชื่อคุณอะไรบ้าง?”

มิ่งตอบกลับอย่างน่าตื่นเต้น “hey, ชื่อของผมคือ Ming. ชื่อคุณอะไรบ้าง?”

หนูขาวยิ้มและบอก “ฉันชื่อ bunny. ให้เราเล่นเกมเดียวกันกับกันเลยครับ ฉันจะพูดคำที่เกี่ยวข้องกับสัตว์แล้วคุณจะเข้าใจว่ามันคือสัตว์อะไร”

หนูขาวเริ่มพูด “ฉันเห็นสัตว์ที่…”

มิ่งคิดแล้วบอก “หนูปีก? ไม่ใช่ปลา? อ่อยแล้วคือสัตว์ที่อาศัยอยู่ในน้ำ! หนูหมาก?”

หนูขาวยิ้มและบอก “คายคะ! มันคือหนูหมาก! คุณทำให้ผมเข้าใจดีมาก”

แล้วมิ่งก็เริ่มพูดคำ “ฉันเห็นสัตว์ที่…”

หนูขาวหน้าอกและคิดแล้วบอก “คือสุนัข? ไม่ใช่แมว? รอให้ผมคิดอีกครั้ง คือสัตว์ที่วายเสียง ‘มิ่ว’ นัก”

มิ่งตอบกลับและยิ้ม “ใช่แล้ว! คุณเล่นดีมาก”

พวกเขาก็ยังเล่นเกมต่อไป มิ่งและหนูขาวใช้เวลาอย่างสนุกสนานในป่า

เมื่อแดดเกือบตกแล้ว หนูขาวบอกว่า “เวลาแล้วที่เราต้องกลับบ้านแล้วครับ วันนี้มันเป็นวันที่ดีมากไหม?”

มิ่งเอาหัวตะลงบอกว่า “ใช่แล้ว ขอบคุณสำหรับเกมนี้ครับ หนู ฉันสนุกมาก”

หนูขาวตอบด้วยใจดีและยิ้ม “ไม่มีอะไร มิ่ง ขอให้เราเล่นอีกครั้งทันทีเดินทาง”

หาคำซับซ้อนซ่อนอยู่: การเดินทางป่าและสำรวจ

บริเวณร่มรื่นเมื่อเช้าและสว่างแล้ว มิ่ม และเพื่อนๆของเขาตัดสินใจที่จะไปเดินทางที่ป่าใกล้บ้านเพื่อการสำรวจอุทยานป่าครั้งหนึ่ง พวกเขาเอากระเป๋าหลังติดตัวด้วยของอาหารและเล็กไม้ชมฤทธิ์ และอารมณ์อยู่กับความสนใจและความหวัง

ในป่ามีเสียงของสัตว์ปีกและหญ้าที่มีสีสัน แสงแดดรั่วผ่านต้นไม้สลับแฉกแยกลงบนพื้นดิน เรียกเป็นลายแสงอันตราย มิ่มและเพื่อนๆของเขาเดินไปเล็กน้อยตามเส้นทาง ขณะที่หยุดลงมาสังเกตส่วนรอบ

จนกระทั่งพวกเขาได้ยินเสียงที่น่าสนใจ พวกเขาหายใจออกและมองไปทั้งทิศทาง พบกุ้งกระต่ายเล็กหลงลงมาจากต้นไม้ ในมือนำตามเลือดผลไม้ที่มีแสงวาบวาบ มิ่มเปิดใจบอก “นี่คืออะไร?”

“นี่อาจเป็นผลไม้พิเศษของป่า” มิ่มฝากว่าเพื่อนของเขา ฝ่ายหญิง ขาว

พวกเขาตัดสินใจที่จะตามกุ้งกระต่ายเพื่อดูว่ามันจะนำพวกเขาไปที่ไหน กุ้งกระต่ายตั้งลงทางลากข้ามแม่น้ำ ผ่านพุ่มไม้ จนมาถึงพื้นที่บริเวณแปลงใหญ่ ที่นั้นพวกเขาพบต้นโอโคที่มีขนาดใหญ่และพื้นต้นไม้ที่มีพืชผลที่น่าสนใจมากมาย

มิ่มตะลึงบอก “ดูว่าที่นี่มีพืชมากมายที่แตกต่างกัน!” ขาวเห็นด้วย “น่าจะใช่ ในป่ามีพืชที่มีชนิดที่หลากหลาย แต่ละพืชมีสีและรูปร่างที่เด่นที่ยิ่ง”

พวกเขาเดินต่อเนื่องในการสำรวจป่า พบดอกไม้สีที่มีสีเหนียวน่ารัก และต้นไม้สูงส่ง พวกเขาวิจารณ์เกี่ยวกับชื่อและคุณสมบัติของพืชต่างๆขณะที่เดินไป

ในระหว่างการสำรวจ พวกเขายังพบหมาป่าที่นอนหลับ ซึ่งมันถูกเสียงของพวกเขาก่อให้ตื่น หมาป่ามองดูเป็นหน้ารุนแรงแล้วเดินออกไปโดยช้าๆ

“ดูเหมือนสัตว์ในป่าก็มีความย่อมยาว” มิ่มบอก

พวกเขามาถึงแม่น้ำเล็กหนึ่ง น้ำที่ชัดและมีปลายแสงที่มีความสวยงามในแสงแดด มิ่มและเพื่อนๆของเขาหยุดระวังบนแม่น้ำและสนุกสนานกับความสงบของป่า

การสำรวจป่าครั้งนี้ทำให้มิ่มและเพื่อนๆของเขาได้เรียนรู้อย่างมากเกี่ยวกับพืชและสัตว์ และรู้สึกถึงความงามและความศรีมหัศจรรย์ของธรรมชาติ

ประกาศสารณ์เกี่ยวกับการประพาสฝายกับต้นไม้และดอกไม้

ในเช้าวันที่มีแสงแดดอย่างระเบิดเหมือนนี้ ลูกชายตูมและลูกสาวลิลลี่ตัดสินใจที่จะไปตะโกนในป่าที่ใกล้ที่สุด พวกเขาพกติดกระดาษสำหรับบันทึกและตะบอนเพื่อบันทึกทุกชนิดของต้นไม้และดอกไม้ที่พวกเขาเห็นได้

เมื่อพวกเขาเข้าไปในป่า พวกเขาได้ยินเสียงเสียงร่องระเบิด ตูมอ่อนน่าสนใจที่เข้าชมต้นไม้ใหญ่หนึ่ง และพบนักแมวป่าหนึ่งบินเดินบนกิ่งไม้ นักแมวป่ามองมาที่พวกเขา เหมือนกับที่มองมาบอกว่า “สวัสดีครับ ฉันคือเจ้าหญิงเขียว ฉันกำลังร้องเพลงตอนนี้!”

ลิลลี่ตื่นเต้นออกกระดาษเอาบันทึก และเขียนว่า “เจ้าหญิงเขียวกำลังร้องเพลง!” หลังจากนั้นเธอกลับมาหาตูมและบอก “ตูม พวกเราจะหาต้นไม้และดอกไม้อื่นได้ไหม?”

ตูมเห็นด้วยและพวกเขาก็ยืนยันต่อการเดินทางของพวกเขาในป่า. ไม่นานหลังจากนั้น พวกเขาก็พบดอกไม้สีสันต่าง ๆ ที่ตกตะกอนด้วยแสงแดงอันสวยงามในแสงแดงออกมาจากแสงแสวง

จากนั้น ลมเล็กน้อยพัดผ่าน และใบไม้หนึ่งตกจากต้นไม้. ตูมหมกไปเก็บใบไม้ และพิจารณามันอย่างละเอียด. เขาพบว่าใบไม้มีหน้าตาเล็กน้อยมากมาย เหมือนตาของเด็ก. เขาบอกตื่นเต้นว่า “ดูว่า! ใบไม้ที่มีตาเล็กน้อย!”

ลิลลี่ก็มองมาดูใบไม้ด้วย และบอก “เราสามารถบันทึกชื่อของต้นไม้และดอกไม้ไว้ และแน่ใจว่าเราจะจดจำมันได้”

พวกเขาก็เดินไปต่อในป่า พบต้นไม้และดอกไม้ทั้งหลายที่มีความสำคัญต่อพวกเขา. แต่ละต้นไม้และแต่ละดอกไม้ก็กลายเป็นหนึ่งในช่วงการสำรวจของพวกเขา. พวกเขาบันทึกข้อมูลด้วยภาษาอังกฤษขนิดง่ายๆ ของแต่ละพบเจอ เช่น “นี่คือต้นไม้แป้ง” “นี่คือดอกชานฝาย”

เมื่อเวลาผ่านไป บันทึกของพวกเขาในกระดาษก็เต็มเป็นข้อมูล. พวกเขาบันทึกชื่อต้นไม้ สีของดอกไม้ และแม้แต่เสียงร้องของนักแมวป่า. เมื่อพวกเขากลับบ้าน ตูมและลิลลี่ก็ร่วมอ่านบันทึกการเดินทางของพวกเขา

“ดูว่า! นี่คือต้นไม้แป้งที่เราหาในป่า!” ตูมชี้ไปที่หน้าในบันทึกของเขา

“และชานฝาย! มันงดงามเหมือนกับกาแลงสีชมพู!” ลิลลี่เสริมเติม

ผ่านการเดินทางตะโกนในป่านี้ ตูมและลิลลี่ไม่เพียงแค่ได้เรียนรู้ว่าจะบันทึกต้นไม้และดอกไม้ด้วยภาษาอังกฤษ แต่ยังได้เรียนรู้ว่าจะสังเกตและบันทึกความงดงามของธรรมชาติด้วย. กระดาษบันทึกของพวกเขากลายเป็นความทรงจำที่มีค่าของพวกเขา และยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยพวกเขาเรียนภาษาอังกฤษด้วย

ในป่าหาอาหาร

ในบ่ายที่มีแสงแดดระลอกๆ จิ๊กเกอร์และเพื่อนๆ ตั้งใจไปเดินทางเลือกป่าที่ใกล้ๆ ด้วยความรุ้งเรืองและตอบโต้กันด้วยความยินดีที่จะได้พบกับสิ่งมีชีวิตที่น่าสนใจในป่า.

“ดูไหนนี้เธอ ต้นไม้นี้เป็นสีเขียว!” จิ๊กเกอร์ชี้ไปที่หน้าหน้าเขาและบอก.

“ใช่แล้ว สีเขียวแสดงถึงชีวิตและสร้างชาติ” แอยห์แสดงความเห็นเสริม.

พวกเขาเดินตามทางและทันทีที่จิ๊กเกอร์พบกับหนูน้อยหนึ่งที่กระโดดบนต้นไม้ เขาจึงถอดเอกสารของเขาออกมาและบันทึกการพบเห็นนี้.

“นี่คือหนูหนึ่ง ขนของมันเป็นสีเทา” จิ๊กเกอร์เขียนอย่างสนใจ.

ไม่นานหลังจากนั้น พวกเขาก็เห็นหนูตะกั่วเล็กหนึ่งที่กระโดดตามต้นไม้ ดูเหมือนกำลังหาอาหาร.

“หนูตะกั่วกำลังหาอะไรนี้?” แอยห์เปลี่ยนคำถาม.

ขณะนั้น พวกเขาได้ยินเสียง “บิ๊บิ๊บ” โดยน้อยหนึ่งจากฝั่งหญ้ากระโดดออกมา.

“นี่คือหนูหนึ่ง!” จิ๊กเกอร์ตะโกนด้วยความตื่นเต้น.

พวกเขาก็เดินต่อไป และไม่นานก็ถึงที่แหล่งที่แสนสวย ที่มีดอกไม้หลากหลายสีที่บานขึ้นในแสงแดด.

“ดอกไม้นี้มีมากมายที่งดงาม!” แอยห์เตือน.

“นี่คือสายลับของฤดูใบไม้ผลิ” จิ๊กเกอร์ชี้แจง.

พวกเขาเดินเดินและดู บันทึกสิ่งมีชีวิตและพืชพรรณที่พบได้ และในที่ลึกของป่า พวกเขาก็พบแม่น้ำเล็กที่น้ำสะอาดเห็นได้ชัด ปลากำลังเล่นน้ำ.

“แม่น้ำนี้มีความสะอาดมาก!” แอยห์กล่าว.

“เราต้องปกป้องสิ่งแวดล้อมเพื่อให้สิ่งมีชีวิตและพืชพรรณของเรามีชีวิตดีขึ้น” จิ๊กเกอร์บอกอย่างจริงจัง.

ในระหว่างการเดินทางเลือกป่า พวกเขาไม่เพียงได้เรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับธรรมชาติ แต่ยังได้เรียนรู้ว่าจะใช้ชีวิตกันอย่างสงบสุขกับธรรมชาติด้วย. การเดินทางเลือกป่าครั้งนี้ทำให้พวกเขาได้รับผลประโยชน์มากมาย.

ในบ่ายที่มีแดดออกแสงอย่างระเวลา บچهต่างกันนั่งรวมกันด้วยความยินดีเพื่อเริ่มเกมส์อังกฤษที่น่าสนุก “คุณคิดว่านี่เป็นบ้านของสัตว์ไหน?”. ตามตารางบนมีภาพสัตว์ทั้งหลายตัว และงานของเด็กๆคือจะคิดเดาว่าภาพแต่ละตัวเป็นสัตว์ไหน และบอกชื่อของมันด้วยภาษาอังกฤษ。

เมื่อเกมส์เริ่มขึ้น ครูเอาภาพแมวเล็กออกมา แล้วบอก “นี่เป็นบ้านของใคร?” บچهต่างกันยกมือแสดงความสนใจ บางคนบอกว่า “cat” และบางคนบอกว่า “kitty” ครูยิ้มและยกมือยอมรับ หลังจากนั้นครูเอาภาพสุนัขออกมาแล้วบอก “who is domestic?” บچهต่างกันตอบกันหน้าตาหน้าตาว่า “dog!” จากนั้นครูเอาภาพรักษ์ออกมาแล้วบอก “What approximately this one?” บچهต่างกันตอบว่า “bird!” บรรยากาศของเกมส์กลายเป็นมากขึ้นและเด็กๆทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ และแข่งขันกันที่จะเดาถึงสัตว์ต่อไป

ในระหว่างที่เกมส์ดำเนินต่อ บچهต่างกันไม่เพียงแค่เรียนรู้ชื่อสัตว์ แต่ยังเรียนรู้วิธีการแสดงถึงที่อยู่ของสัตว์ด้วยภาษาอังกฤษด้วย แต่ว่าจะเดาถึงสัตว์ใดได้ ครูก็จะเขียนชื่อสัตว์ดังกล่าวที่ข้างภาพ และให้เด็กๆเรียนตาม

เมื่อทุกภาพที่มีอยู่ถูกแสดงครบ ครูนำเด็กๆกลับมาทบทวนสิ่งที่เรียนรู้ในวันนี้ และให้ประกาศว่าให้ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันของตน ท้ายที่สุด ครูยังมอบของของเล็กๆให้กับเด็กๆที่มีการเข้ามามากที่สุดเพื่อเป็นการยกย่องและให้ความเป็นมาในการเรียนรู้ของพวกเขา

เกมส์ “คุณคิดว่านี่เป็นบ้านของสัตว์ไหน?” นี้ไม่เพียงแค่ช่วยให้เด็กๆเรียนรู้ภาษาอังกฤษในบรรยากาศที่สบายและมีความสนุก แต่ยังกระตุ้นความสนใจในสัตว์ของเด็กๆ และให้พวกเขารู้สึกถึงความสนุกของการเรียนภาษาอังกฤษด้วยวิธีการเล่นเกมส์นี้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *