เด็กชายแจ็ค ในวันอาทิตย์อันมีแดดออกแสงระเริญ จึงแต่งกายตลอดเดินทางกับเจ้าหนูสุนัขของเขาเนลล่า เพื่อเดินทางไปค้นหาซ่อนทรัพย์ที่ซ่อนเกี่ยวบริเวณป่าใกล้ๆ กับบ้านของเขา เมื่อทั้งสองเดินข้างไปที่ดิ่งลึกในป่า ตอนเรียบร้อยและแข็งขันของการรณรงค์อรรถนิยมที่ได้รับความยินดีและเจตนายังอยู่กำลังจะเริ่มขึ้น

เริ่มต้นของการออดเว้น

ฝากความรู้เกี่ยวกับสัตว์ป่า

สัตว์ป่าที่แรก

“คุณเคยเห็นหมีในป่าไหม? หมีมีตาสีน้ำตาล และมันมีหน้าที่ที่สำคัญในป่า คือ นักกินปลายทางป่า!”

สัตว์ป่าที่สอง

“เรายังมีหมู่แก้วอีกคน! แก้วมีตาสีแดง และมันเลี้ยงลูกด้วยนม. มันเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในป่าติดกับต้นไม้หนา.”

สัตว์ป่าที่สาม

“มีสัตว์ป่าอีกคนที่เรียกว่า หมู่แก้วขาว. มันมีขนขาวเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลตามฤดู. มันเลี้ยงลูกด้วยนมด้วยเช่นกัน.”

สัตว์ป่าที่สี่

“แล้วมีสัตว์ป่าอีกคนคือ แรกงู. มันมีขนสีเขียวเปลี่ยนเป็นสีแดงตามฤดู. แรกงูมีหน้าที่ที่สำคัญเป็นนักกินเชื้อเสื้อในป่า.”

สัตว์ป่าที่ห้า

“แล้วเรามีสัตว์ป่าที่เรียกว่า หมู่แก้วสีน้ำตาล. มันมีขนสีน้ำตาล และมันเลี้ยงลูกด้วยนม. มันอาศัยอยู่ในป่าติดกับต้นไม้หนาเช่นกัน.”

สัตว์ป่าที่หก

“มีสัตว์ป่าอีกคนที่เรียกว่า แรกงูเขียว. มันมีขนสีเขียว และมันเป็นนักกินเชื้อเสื้อในป่า. มันมีหน้าที่ที่สำคัญเป็นนักกินเชื้อเสื้อในป่า.”

สัตว์ป่าที่เจ็ด

“แล้วเรามีสัตว์ป่าที่เรียกว่า หมู่แก้วสีน้ำตาล. มันมีขนสีน้ำตาล และมันเลี้ยงลูกด้วยนม. มันอาศัยอยู่ในป่าติดกับต้นไม้หนาเช่นกัน.”

สัตว์ป่าที่แปด

“มีสัตว์ป่าอีกคนที่เรียกว่า แรกงูเขียว. มันมีขนสีเขียว และมันเป็นนักกินเชื้อเสื้อในป่า. มันมีหน้าที่ที่สำคัญเป็นนักกินเชื้อเสื้อในป่า.”

สัตว์ป่าที่เก้า

“แล้วเรามีสัตว์ป่าที่เรียกว่า หมู่แก้วสีน้ำตาล. มันมีขนสีน้ำตาล และมันเลี้ยงลูกด้วยนม. มันอาศัยอยู่ในป่าติดกับต้นไม้หนาเช่นกัน.”

เช้าวันที่มีแดดออกมาสว่าง หมอมิงกับเพื่อนๆของเขาตัดสินใจที่จะไปหาทรัพย์สมบัติที่ซ่อนตัวในป่าเขา พวกเขาถือแผนที่เดินไปตามทางเล็กๆด้วยความระมัดระวัง

พวกเขาผ่านผ่านพุ่มไม้หนาแน่น และกระโดดข้ามแม่น้ำเล็กๆหลายสาย จนได้มาถึงพื้นที่บริเวณที่กว้างขวาง ที่นั่นพวกเขาพบต้นทรงอายุยาวและใต้ต้นมีใบไม้ที่เก็บกุ้งที่เป็นแผนที่ หมอมิงได้รวบรวมใบกระดาษอย่างระมัดระวัง บนใบกระดาษมีแผนที่ที่แสดงจุดที่น่าสนใจ

พวกเขาตามแผนที่ที่มีในแผนที่ต่อไป ไม่นานก็มาถึงหน้าต่างของหนองแว่นที่ถูกกิ่งไม้และกำแพงใบไม้ที่กัน ดูเหมือนว่ามันเป็นที่ลึกลับมาก หมอมิงก็กล้าหาญที่จะเข้าไปด้วยการนำขบวน

หนองแว่นมีความมืดและชื้น แต่พวกเขาก็ไม่ยอมจำนน บนผนังของหนองแว่นพวกเขาพบสัญลักษณ์ประกาศศาสตร์ที่ดูเหมือนว่าเป็นรหัส

หมอมิงนำแผนที่ออกมาเปรียบเทียบกับสัญลักษณ์ และพบว่าสัญลักษณ์นี้แสดงถึงทิศทางและระยะทาง พวกเขาตามแผนที่ที่มีในแผนที่เดินไปด้วยความระมัดระวัง

ไม่นานพวกเขาก็ได้ยินเสียงน้ำกระแสเร็ว พวกเขาตามเสียงไปได้ถึงหน้าหนองน้ำที่มีหลอดน้ำลงมา หลังหนองน้ำมีหินใหญ่ที่มีพื้นเรียบ

หมอมิงบนหิน และกระโดดลงมาที่ข้างหนองน้ำ พวกเขาพบหน้าต่างที่ซ่อนอยู่หลังหนองน้ำ หน้าต่างดังกล่าวมีความมืดอย่างมาก แต่พวกเขาก็กล้าหาญที่จะเข้าไปด้วยความระมัดระวัง

ในหนองแว่นมีห้องเล็กๆ และในห้องมีตู้ไม้หนึ่ง เมื่อเปิดตู้ พวกเขาพบทองคำและเมฆอาทิตย์ที่มีมากมาย

หมอมิงและเพื่อนๆของเขาตะลึงและเตือนเตลิงขึ้น เพราะพวกเขาได้หาพบทรัพย์สมบัติ พวกเขานำทรัพย์สมบัติกลับบ้านและแบ่งปันความสุขที่มีการค้นหาทรัพย์สมบัตินี้ ตั้งแต่นั้นมาหมอมิงและเพื่อนๆของเขาก็กลายเป็นนักสำรวจป่าเล็กๆ และทุกครั้งที่พวกเขาไปสำรวจก็มีความสนุกสนานและมีประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น

เผชิญกับปัญหา

Tom และ Sam ในการหาทรัพย์สมบัติได้เผชิญกับหลายๆความยากลำบาก。ต้นทางแรกคือพวกเขาเดินทางเข้าไปในป่าสมองสักที่มีต้นไม้สูงและหนา และแสงแดดปรากฏไม่ออกมาจากใบไม้ได้

อย่างไรก็ตาม ซัมได้ยินเสียงเสียงเศษเศษ และขึ้นมามองไปที่สัตว์ประมาณหนึ่งที่กำลังเข้าชมพวกเขาเพื่อนาน ๆ และ Tom ก็หวานเข้าเช้ามืดและหลบไปเบื้องหลังซัม ซัมก็กล้าหาญเอาตัวเองไปข้างหลังสัตว์ประมาณนั้น และเรียกกลับหลังเรียกตัวเองออกมาเพื่อหาทางออก

จนกระทั่งพวกเขาพบใบกระดาษหนึ่งบนต้นไม้ที่ข้อความบนมันว่า “ให้ระมัดระวัง นี้เป็นสัตว์ประมาณที่เป็นมิตร มันรู้ที่ทรัพย์สมบัติอยู่ หากคุณถามทางมันจะนำคุณไปที่ทรัพย์สมบัติ” Tom และ Sam มองกันด้วยตา และตัดสินใจเชื่อใบกระดาษนี้

พวกเขาเดินไปยังสัตว์ประมาณอย่างระมัดระวัง และถามทางมัน สัตว์ประมาณดูเหมือนจะพอใจในการช่วยเหลือพวกเขา มันชี้ทางด้วยหางที่มันว่าทรัพย์สมบัติอยู่ทางด้านนั้น Tom และ Sam ขอบคุณสัตว์ประมาณด้วยนัยและเดินตามทางที่มันชี้

ขณะที่พวกเขาใกล้ทรัพย์สมบัติ พวกเขาพบแม่น้ำบางที่น้ำดิบ พวกเขาไม่สามารถข้ามแม่น้ำได้ และ Tom และ Sam ยืนอยู่ที่แม่น้ำและไม่รู้ทางออก จนกระทั่งพวกเขาพบใบกระดาษหนึ่งอีกครั้ง บนมันข้อความว่า “ไม่ต้องเกรงกลัว ที่นี่มีไม้เดินที่คุณสามารถใช้เพื่อข้ามแม่น้ำ”

พวกเขาหาไม้เดินออกมาและจัดให้มันตั้งบนแม่น้ำ และ Tom และ Sam ข้ามแม่น้ำอย่างระมัดระวัง ขณะที่พวกเขามาถึงฝั่งข้างมา พวกเขาพบทรัพย์สมบัติอยู่ไม่ไกลมากนั้น

พวกเขาเดินเข้าไปหาทรัพย์สมบัติและพบฝากล่องที่ซ่อนตามต้นไม้ ภายในฝากล่องมีเมธาล์และเงินทองที่วางอยู่ติดตัว และ Tom และ Sam ยินดีที่มีใจ พวกเขารู้ว่า ทางการร่วมมือกันก็ไม่มีปัญหาใดที่ไม่สามารถเอาชนะได้

พบทองคำ

Tom และ Sam ได้ตามคลิ้งของแผนที่เดินเท้าเข้าในทะเลสาบ ลงรอยเท้าในทรายที่นุ่มนวล เมื่อพวกเขาเลี้ยวหลังไปหนึ่งคอน เรือโจรเก่าที่อยู่ห่างไกล ปรากฏขึ้นในดistant มันเป็นสีเขียวอันแน่นแน่น ๆ ที่เนื้อต้นไม้กิ่งก้าน ซึ่งอาจจะละลายละลายแต่ยังคงยืนยง

“มองเห็นนี้!” Tom ลงกรานไป และวางนิ้วไว้บนปาก “มันเหมือนในนิยายแบบนี้”

Sam ขักขางวงกวาดเพื่อยอมรับ พวกเขาเข้าชมเรือโจรอย่างเต็มใจ เสียงเท้าของพวกเขาเปลี่ยนแปลงเป็นเสียงปลิวกันต่อที่แผ่นไม้เรือ

เมื่อพวกเขาเข้าชมมากขึ้น พวกเขาสังเกตเห็นประตูที่ซ่อนตัว ที่บางแสนเล็กน้อย ที่เปิดอยู่เล็กน้อย ภายในมันมืดและหมุนเหม็น แต่พวกเขาสามารถได้ยินเสียงกระเพื่องกระเพื่องของกระดาษที่รอยเรียบ

“ช่วยเหลือ ให้เรามีความเงียบ” Tom วางมือเหนือปาก “เราเข้าไปอย่างเงียบๆ”

พวกเขาเดินเท้าอย่างละลายละลายเข้าไปในในที่เดินเท้า ตาของพวกเขาสามารถปรับตัวต่อแสงแห่งความมืด

บนตารางเล็กน้อย พวกเขาหายใจลึกดิ่ง เมื่อพวกเขาหายหายากและหายหายากได้เห็นกรงเงินทองหรือขนมงวด แต่แทนนั้นเป็นเหลืองเกล็ดทรายทะเลที่มีสีเหมือนเมฆ ที่ระเบิดเมฆในแสงความมืด

“เราะ!” Tom วิ่งมาและรับเกล็ดทรายไป “มันเหมือนงานศิลปะที่เล็กน้อย”

Sam ขึ้นบนตารางและดูลงในกรงเงิน “มันงดงามมาก” เขาพูด เสียงของเขามีหน่วงเสียงเล็กน้อย

Tom และ Sam รู้ว่าพวกเขาต้องแบ่งเจาะหน้าของของทรัพย์เหล่านี้กับทุกคน พวกเขาออกจากเรือโจรและเดินกลับสู่ชายหาด

ขณะพวกเขาเดินไป พวกเขารวบรวมเหลืองเกล็ดทรายและของขวัญเล็กๆ มากขึ้น

เมื่อพวกเขาถึงชายหาด พวกเขาพบกลุ่มเด็กที่เล่นตามหลังกัน พวกเขาแสดงของทรัพย์ให้เห็นและเริ่มบอกเล่าเกี่ยวกับการออกทะเลสาบของพวกเขา เด็กๆ ทุกคนต่างตะลึงและเข้ามาเล่นด้วย ร่วมกันสร้างบ้านน้ำทราย

ขณะที่ดวงอาทิตย์เริ่มตกแล้ว เด็กๆ ได้เล่นจนถึงตอนที่ต้องกลับบ้าน และ Tom และ Sam ให้สัญญากันว่าจะกลับมาอีกครั้งในวันต่อไป “จนกระทั่งในวันถัดไป ชายหาด!” พวกเขาตะโกนไปที่คลื่น

และดังนั้น การออกทะเลสาบของ Tom และ Sam ก็จบลง แต่พวกเขารู้ว่ายังมีการออกทะเลสาบมากมายที่คาดคิดกับพวกเขาในอนาคต

แบ่งปันความดีใจ

สุดยอดแสงแดดในวันเสาร์หนึ่ง หมายเลขหม่อง หมายเลขหง ตัดสินใจไปสนุกที่สวนสนุก พวกเขาติดตามของเล่นและของหวานของตนเองและมองเห็นว่านั่นมีคนเด็กหลายคนเล่นเกมส์สลไลด์และเพลิงเรือใบ หมายเลขหม่องและหมายเลขหงก็ไม่หลงละเมิดและเข้าร่วมเล่นเช่นเดียวกัน เสียงรำแรงของพวกเขาสะท้อนรอบๆ

หลังจากเล่นหนัก พวกเขาหาที่นั่งนั่งที่นั่งยาวและนำของหวานของตนเองออกมาแบ่งกันมากัน ในขณะนั้น พวกเขามาถึงชายแม่น้ำและเห็นรันด์ที่เล่นน้ำ หมายเลขหม่องนำออกขนมหนึ่งลูกและหมายเลขหงนำออกข้าวโพดหลายลูก พวกเขาเฝ้าดูอย่างอ่อนเกี่ยวกันและโยนให้รันด์กิน เรื่องที่น่าสนุกมาก และดูเหมือนว่ารันด์ทั้งหมดมีความสนใจในการรีบมากิน

แบบฟ้าหลังทางดึงดูดและอบอุ่นอย่างอ่อนๆ หมายเลขหม่องและหมายเลขหงนอนอยู่บนหญ้าและมองทางบนฟ้าดูคาแค้ง พวกเขาเล่ากันเรื่องสนุกที่เกิดขึ้นในบ้านของตนเอง มีเสียงรำแรงที่มาก

เมื่อเวลาเดินไปที่แยก พวกเขามาถึงหน้าร้านของสวนสนุกและซื้อน้ำและของหวานเล็กๆเพื่อกลับบ้าน บนเส้นทางกลับบ้าน พวกเขาได้พบกับเด็กเล็กที่ลอยลมเล่นลูกปลิว พวกเขาดูเห็นลูกปลิวสีสันสดใสลอยบนฟ้า และพวกเขาก็ยินยอมที่ว่าธรรมชาติมีความศรีมงคล

หมายเลขหม่องและหมายเลขหงเข้าสวนสนุกในวันนั้นและสนุกสนานมาก พวกเขาแบ่งปันความดีและได้รับความดี บรรยากาศที่ดีนี้จะต้องเหลืออยู่ในใจของพวกเขาตลอดไป

ยุติการผจญภัย

ภายในการประชุมกันอย่างดึงดูดตนเอง เด็กๆ จับตามองและบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ของการออกเดินทางของพวกเขา ทุกคนมีความค้นพบและประสบการณ์ที่ต่าง ๆ กัน แต่จุดสุดท้ายที่พวกเขามีกันคือทุกคนได้ได้รับความรู้ใหม่ และกลายเป็นมนุษย์ที่มีกำลังและมีความมั่นใจมากขึ้น

ขณะที่หวานหนึ่งเอาใบคาเดอร์ของสัตว์และพืชที่เขาสะสมมาแสดง ติ๊กกวนวิว่า: “ผมได้รู้จักสัตว์ที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน และได้เรียนรู้ชื่อและลักษณะของพวกเขา!” ในขณะที่เซอร์เมี่ยงแสดงด้วยหน้าต่างที่เธอวาดเองของแผนที่ หยิ่งยาวว่า: “ผมได้เรียนรู้วิธีการอ่านแผนที่ และหาบริเวณที่มีสนุกมาก!”

เมื่อพ่อแม่มองเห็นเด็กๆ ซึ่งหน้าตาเปิดและซึมไปด้วยความมีกำลัง หายใจสบายใจที่แสนมีความยินดี เนื่องจากพวกเขาตระหนักว่าการออกเดินทางครั้งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้เด็กๆ มีประสบการณ์มากขึ้น แต่ยังทำให้พวกเขาได้รับการฝึกที่จะทำงานร่วมกันและมีกำลังใจที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทาย

ในขณะที่เดินกลับบ้าน เด็กๆ กลับมองหลังและจดจำเรื่องราวทุกข้อของการออกเดินทางครั้งนี้ พวกเขาอึกอากาศเกี่ยวกับแผนการของการออกเดินทางครั้งต่อไป โดยเต็มไปด้วยความหวัง พ่อแม่ที่อยู่ข้างเคียงดูแลและสนับสนุนอย่างลับๆ ประทับใจด้วยความยิ่งใจที่เด็กๆ กำลังเติบโตขึ้น

ความสิ้นสุดแต่ใจกลับเริ่มขึ้นเดินทางสงสัย ด้วยความรู้และกำลังใจที่เด็กๆ นำมาด้วย พวกเขาจะก้าวไปตามอีกทางที่มีความสนุกสนานของโลกนี้ และความทรงจำที่อันตรายและยอดยินดีนี้จะเหลืออยู่ในใจของพวกเขาตลอดไป

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *