ในช่วงบ่ายที่มีแดดออกแสงอย่างระลึกลึก แมวปู่มิมิตั้งใจที่จะเรียนภาษาอังกฤษ เพื่อที่จะช่วยประชาชนมากขึ้น. มิมิจึงเริ่มสังเกตและเรียนรู้คำภาษาและวลีอังกฤษในชีวิตประจำวัน จนกระทั่งมิมิพบกับท่ายายที่เดินทางเดินหน้าแต่ไม่พบทางกลับบ้าน. มิมิไม่ลังเลที่จะใช้ภาษาอังกฤษเพื่อถามท่ายายว่าต้องการช่วยอะไร และประสบความสำเร็จในการนำทางเธอกลับบ้าน. เรื่องนี้บรรยายถึงวิธีที่มิมิได้พัฒนาภาษาอังกฤษขึ้นเป็นมือช่วยในชีวิตประจำวันของตนเอง.

ประวัติการ์ของเรื่อง

ในเช้าวันที่มีแสงแดดอย่างระเบิดโปร่งใส แมวชื่อ Tom ตื่นขึ้นและพบว่าตนตัวตั้งอยู่ในโลกอังกฤษที่มีชีวิตประหลาดและสิ่งที่น่าสนุกสนานทั้งหลาย Tom ตัดสินใจที่จะใช้โอกาสนี้เพื่อเรียนภาษาอังกฤษ

Tom ได้มีเพื่อนคนแรกที่เป็นนกประจำที่ชื่อว่า Milo ซึ่งเรียนให้ Tom ว่าจะพูดตามภาษาอังกฤษว่า “exact morning!” หลังจากนั้น ทั้งสองได้เดินเดินร่วมกันในสวน และ Tom พบดอกไม้กุหลาบสีแดงที่มีสีสวยงาม Tom ตะลึงตะละครับและพูดว่า “pink rose, purple rose!”

หลังจากนั้น Tom ได้พบกับหาญี่ยงชื่อ Lily ซึ่งเรียนให้ Tom ว่าจะอธิบายสีด้วยภาษาอังกฤษว่า “Blue, yellow, crimson, and green!” Tom ตาม Lily หาดอกไม้ที่มีสีต่าง ๆ ในสวน และเรียนว่าจะพูดชื่อสีทุกสี

ขณะที่ Tom กำลังแสวงหากาแนนที่ต่อไป Tom ได้พบกับห้วยชื่อ Benny ซึ่งร้องเพลงด้วยภาษาอังกฤษว่า “jump, bounce, jump, over the pond!” Tom ตาม Benny และกระโดดเหนือทะเลสาบ และเรียนว่าจะพูดคำว่า “soar”

เมื่อเวลาผ่านไป Tom ได้เรียนภาษาอังกฤษมากขึ้นแล้ว หนึ่งวันเขาได้พบกับสุนัขชื่อ Zoe ซึ่งกำลังเตรียมไปที่โรงเรียน Tom สงสัยว่า “wherein are you going, Zoe?” Zoe ตอบว่า “to school!” Tom ตระหนักว่าเขาก็สามารถไปโรงเรียนเพื่อเรียนความรู้มากขึ้นด้วย

ที่สนามกีฬาของโรงเรียน Tom ได้พบกับกลุ่มเด็กที่กำลังเล่นลูกเตะ พวกเขาพูดตามกันว่า “howdy, how are you?” Tom รู้สึกน่ายินดีมาก เพราะเขาสามารถคุยกับพวกเขาด้วยภาษาอังกฤษ

ในห้องสมุดโรงเรียน Tom พบหนังสือเกี่ยวกับสัตว์ และพบว่าสัตว์ทุกตัวมีชื่อเรียกด้วยภาษาอังกฤษ Tom อ่านอย่างระมัดระวังและบอกด้วยภาษาอังกฤษในขณะที่เขาอ่าน

ผ่านประสบการณ์นี้ Tom ไม่เฉพาะที่ได้เรียนคำศัพท์อังกฤษมากยิ่งขึ้น แต่ยังได้เรียนว่าจะใช้คำศัพท์เหล่านั้นในการบอกคำตอบที่เรียบง่ายด้วยภาษาอังกฤษด้วย ในที่สุด Tom กลายเป็น “ดาวเด่นภาษาอังกฤษ” ที่มีชื่อเสียงเล็กน้อยโดยใช้ความรู้ภาษาอังกฤษของเขาเพื่อช่วยเหลือคนอื่น

เรื่องของ Tom บอกเราว่า การเรียนภาษาอังกฤษไม่ยาก แค่ว่าเราต้องใช้ใจในการสังเกตและปฏิบัติ แล้วเราก็สามารถได้รับความรู้ในระหว่างความสนุกสนานด้วย

กระบวนการเรียนการสอน ที่ระบุว่าทำไมและจะทำอะไร

ในกระบวนการเรียนการสร้างที่นี้ เด็กๆ ได้รับบทบาทผ่านการทำกิจกรรมน่าสนุกและเรื่องที่เกี่ยวข้องกับวลีเกี่ยวกับวันและเวลาในภาษาอังกฤษโดยเรียบเรียบ ต่อไปนี้คือบางช่วงเวลาที่เด็กๆ จะทำอย่างที่น่าจับตามองในการเรียนการสร้างของพวกเขา:

  1. เวลาอ่านเรื่อง: เด็กๆ ได้รับการเรียนการสร้างวลีเวลาผ่านการฟังเรื่องที่ชื่อว่า 《แมวขาวไปเที่ยว》。ในเรื่องนี้ แมวขาวได้ประสบกับเวลาต่าง ๆ ในวัน และเด็กๆ ได้เรียนรู้ “morning”、“afternoon”、“night” และ “night time” จากเรื่องนี้ด้วยตนเอง

  2. เกมส์สนุก: เด็กๆ ได้เข้าร่วมเกมส์ที่ชื่อ “เจ้าหน้าที่เวลา” ซึ่งพวกเขาต้องคาดเดาเวลาที่เห็นในภาพตามกิจกรรมต่าง ๆ อย่างเช่น ขณะที่เห็นภาพที่ดวงอาทิตย์ขึ้น พวกเขาจะต้องบอกว่า “properly morning”

  3. แสดงบทบาท: เด็กๆ แสดงบทบาทเป็นแมวขาวและแสดงให้เห็นเวลาต่าง ๆ ในวันด้วยภาษาอังกฤษ และบอกว่าพวกเขากำลังทำอะไร อย่างเช่น “i am eating breakfast at 7 o’clock inside the morning.”

four. เรียนร้องเพลง: เด็กๆ ได้เรียนร้องเพลงที่ชื่อว่า 《What Time Is It?》 โดยใช้ดนตรีและทั้งเพลงเพื่อจับความรู้เข้าใจวลีเวลาและวิธีใช้งานของพวกเขา

five. การวาดภาพ: เด็กๆ วาดภาพที่พวกเขาคิดขึ้นในแต่ละเวลาของวัน และทางด้านขวางหน้าของภาพทางด้านซ้ายเขียนวลีเวลาภาษาอังกฤษ

  1. การเล่นแคร์ดจำชื่อ: เด็กๆ ทำแคร์ดจำชื่อวลีเวลาและเล่นเกมส์การหาคู่ โดยแต่ละแคร์ดจะมีภาพและวลีเวลา และเด็กๆ ต้องหาแคร์ดที่ตรงกันข้าม

  2. การใช้งานทางปฏิบัติจริง: ในที่สุด เด็กๆ จะใช้วลีเวลาที่เรียนรู้มาใช้ในสถานการณ์ปฏิบัติจริง อย่างเช่น ตั้งโหลดเครื่องเตือนเวลาและบอกให้คนอื่นรู้ว่า “Set the alarm for 7:00 within the morning.”

ผ่านกิจกรรมเหล่านี้ เด็กๆ ไม่เพียงแค่เรียนรู้วลีเวลา แต่ยังได้เรียนรู้ว่าจะใช้วลีเวลานี้ในชีวิตประจำวัน ทำให้กระบวนการเรียนการสร้างนี้มีความน่าสนุกและมีประสิทธิภาพเท่านั้น

ข้อความที่แปลเป็นภาษาไทยคือ:”แอปพลิเคชันส์ในชีวิตประจำวัน”

  1. การแชร์ประสบการณ์ทางการซื้อขาย:เด็กๆ จะแสดงตัวเป็นลูกค้าและพนักงานร้านเครื่องเล่น ในร้านเครื่องเล่นสัตว์เลี้ยงเล็ก ตัวอย่างเช่น,เด็กๆ จะพูดว่า: “Can i have a have a look at that teddy endure, please?” (ขอดูแท้นครับ ขอดูไตรย์โดยมานะครับ)
  2. การแชร์ประสบการณ์ทางโรงเรียน:เด็กๆ จะสร้างสถานการณ์การสนทนาในโรงเรียน ตัวอย่างเช่น ทางห้องเก็บหนังสือ ห้องเรียน หรือสนามกีฬา. ตัวอย่างเช่น,เด็กๆ จะพูดว่า: “properly morning, miss Johnson. I need to borrow a ebook.” (โมงเช้าโดยมานะ คุณจอห์นสันส์ ฉันต้องการยืมหนังสือไป)
  3. การแชร์ประสบการณ์ทางครอบครัว:เด็กๆ จะแสดงตัวเป็นบุคคลในบ้าน ตัวอย่างเช่น ในห้องครัว ห้องนั่งหรือห้องนอน. ตัวอย่างเช่น,เด็กๆ จะพูดว่า: “Dad, are you able to assist me discover my toy automobile?” (พ่อครับ คุณจะช่วยฉันหารถเล่นได้ไหมครับ)four. การแชร์ประสบการณ์ทางการท่องเที่ยว:เด็กๆ จะสร้างสถานการณ์การสนทนาในท่าอากาศยาน สถานีรถไฟหรือร้านอาหาร. ตัวอย่างเช่น,เด็กๆ จะพูดว่า: “where is the toilet, please?” (คุณบอกท่าอากาศยานที่แห่งไหนนะครับ)

ผ่านการฝึกของการสนทนาในสถานการณ์ที่มีตัวจริง เด็กๆ จะทำได้เพิ่มขึ้นทางด้านความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ รวมทั้งความสามารถในการสนทนาและทักษะการเป็นคนเรียนรู้ด้านการเคารพมากยิ่งขึ้น.

เรื่องราวจุดสูงสุด

เช้าวันแสนและระชายแดดสว่างในหอมวน หนูประจำวันฝันอย่างสบายใจเที่ยวเที่ยวระหว่างป่าพญาไทยเมืองไทย มันเห็นสุนัขหนึ่งที่นั่งบนเก้าอี้เกาะเล่นอย่างสนุกสนาน หนูประจำวันฝันบินมาอยู่เรียกว่า “สวัสดีครับ สุนัขน้อย วันนี้คุณมีสวยใจไหม?”

สุนัขน้อยชื่นชมตาขึ้นมากลับว่า “ไฮ หนูประจำวันฝัน! ฉันมีความสุขมาก ขอบคุณด้วย วันนี้ฉันจะไปสนุกกับเพื่อนหนุ่มหมาแมวที่ป่าพญาไทยเมืองไทย”

หนูประจำวันฝันฟังแล้วตัดสินใจที่จะแบ่งหน้าไปเล่นกับสุนัขน้อย พวกมันร่วมกันวิ่งว่ายน้ำและเล่นตลอดเวลาที่ป่าพญาไทยเมืองไทย พวกมันยังเจอประชาชนสัตว์อื่นด้วย

ตอนนี้ มีกลุ่มมดดินมืดปลอมมามายาวลงจากท้องฟ้า หนูประจำวันฝันกลัวว่า “สุนัขน้อย แมวน้อย คุณหวาดฝันกับเสียงฝนทอดไหม?”

สุนัขน้อยและแมวน้อยมองกันแล้วเรียกด้วยแก้วตายิ้มยิ้มเลิกว่า “ไม่ ไม่หวาด พวกเราไม่หวาดฝันกับเสียงฝนทอด ที่เราร่วมกันแล้วแล้วเราก็ไม่มีอะไรที่ต้องหวาดไหม”

หนูประจำวันฝันรู้สึกว่าที่สุนัขน้อยและแมวน้อยบอกมันมีเหตุผล มันรู้สึกมั่นใจมากขึ้น พวกมันจึงเล่นตลอดเวลาจนกว่าแสงอาทิตย์จะตกลงและสวนจะมืดลง

ในตอนที่นาฬิกาเริ่มมืดลงหนูประจำวันฝันบอกว่า “วันนี้เรามีเวลาต้องกลับบ้านแล้ว”

สุนัขน้อยและแมวน้อยยืนยันด้วยแก้วตาว่า “ใช่ มาแล้ว พวกเราต้องแบ่งแยกตัวกับเพื่อนหนุ่มนั่นไปแล้ว”

พวกมันแบ่งแยกกับสัตว์อื่นๆแล้วกลับบ้านโดยวิ่ง หนูประจำวันฝัน สุนัขน้อยและแมวน้อยแบ่งเรียกเรื่องราวของพวกเรากันเรื่องกัน และเลือกว่าเวลาที่ร่วมกันเล่นกันได้สนุกมาก

ขณะที่พวกมันกลับบ้านมาถึงที่บ้าน หนูประจำวันฝันเห็นแม่สุนัขน้อยรออยู่ที่ประตูเข้าบ้าน แม่สุนัขน้อยชื่นชมตาขึ้นมาว่า “กลับมาแล้วครับ วันนี้คุณสนุกมากไหม?”

สุนัขน้อยและแมวน้อยตอบด้วยแก้วตาที่เหมือนกัน “เป็นที่ยินดีมาก แม่! วันนี้เราไปสนุกที่สวนพญาไทยเมืองไทย และเจอหนูประจำวันฝันด้วย และเล่นมาก่อน”

แม่สุนัขน้อยฟังแล้วยิ้มยิ้มอย่างดี รู้สึกพอใจว่าสุนัขน้อยและแมวน้อยไม่แค่สนุกสนานในวันนี้ แต่ยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับความกล้าหาญและเพื่อนแฝฝด้วยเช่นกัน

:”กรุณาตรวจสอบเนื้อหาที่แปลเป็นภาษาไทย แต่ไม่ให้มีการแสดงข้อความในภาษาจีนที่เรียกว่า ‘ภาษาจีนปัง'”

เมื่อมาถึงจุดสิ้นสุดของการเรียนภาษาอังกฤษของแมวเล็ก มันไม่เพียงแค่สามารถสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษและช่วยเพื่อนๆในการเข้าใจโลกที่รอบตัวเขา แต่ยังช่วยพวกเขาแก้ปัญหาด้วยคำศัพท์และวลีภาษาอังกฤษของมัน เช่น บอกเวลา นำทางหรือสอบถามฝนอากาศ

ความสามารถในภาษาอังกฤษของแมวเล็กทำให้เพื่อนๆต่างก็ประหลาดใจและเริ่มมีความสนใจในการเรียนภาษาอังกฤษ แมวเล็กกลายเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ทุกคน ด้วยร่างกายเล็กน้อยของมัน มันแสดงให้เห็นว่าทุกคนสามารถเรียนภาษาใหม่ได้ หากมีความสอนใจ

แมวเล็กยืนอยู่ที่ด้านหน้าต่าง มองออกไปที่โลกนอก มันรู้ว่าถึงแม้การเรียนภาษาอังกฤษของมันจะเสร็จสิ้นแล้ว แต่การออกเดินทางใหม่ก็จะเริ่มขึ้นตอนนี้เอง ความอดทนและความตั้งใจของแมวเล็กกระตุ้นให้ผู้ที่เห็นมันเชื่อว่า หากในใจมีความฝัน ก็ไม่มีสิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *